หลากหลายวิธีที่ผู้หญิงควรรู้จะได้ปลอดภัยจากโจร ภัยใกล้ตัวของสุภาพสตรีที่ป้องกันได้
จากสภาวะสังคมในปัจจุบันที่สาวๆทั้งหลายแข่งกันอวดทรวดทรงองค์เอว แฟชั่นกางเกงขาสั้น กระโปงสั้นโชว์ขาอ่อน บ้างก็แข่งกันอวดความรวยใช้ของแพงๆ กระเป๋าแบนด์เนม ใส่สร้อยทองวูบวาบ เซทคุยมือถือในทุกอริยาบท โดยไม่ระวังตัว นี่แหละคือสิ่งจูงใจให้กับโจรได้ก่อเหตุ ผมจึงขอนำบทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ มาเผยแพร่เพื่อให้คุณผู้หญิงที่ถูกพาดพิงเหล่านี้ได้รู้จักระวังเนื้อระวังตัว ก่อนที่จะเจอะเจอกับวายร้ายที่แฝงตัวปะปนอยู่ใกล้กับคุณในทุกหนแห่ง
สำคัญมากสำหรับท่านที่มีญาติหรือลูกหลานที่เป็นผู้หญิง
เรื่องของการฉกชิงวิ่งราวในปัจจุบัน มันแพร่ระบาดไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้จะเป็นประเทศในแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หลายพันคนโดนมาแล้ว มิใช่เกิดแต่ในเอเชีย และ แอฟริกา หรือ ในประเทศไทยเท่านั้น โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นเพศหญิงจะโดนบ่อยมากกว่าเหยื่อที่เป็นเพศชาย ดังนั้น
1. อย่าพกสิ่งที่ต้องเสียใจมากลงในกระเป๋าถือ เพราะ ถ้ามันถูกฉกไป จะได้ไม่ต้องมาเสียใจมากนั่นเอง เริ่มโดย เทสิ่งของทั้งหมดในกระเป๋าถือของคุณผู้หญิงออกมา เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรที่คุณจะต้องเสียใจไปอีกนาน ถ้ามันหายไปพร้อมกระเป๋าถือ จงรีบหยิบมันออกมา แล้วนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยมากกว่าในทันที อย่าลืมว่า กระเป๋าถือ ไม่ใช่ตู้นิรภัยเคลื่อนที่ สิ่งที่ควรมีในกระเป๋าถือ คือ “ของมีค่าไม่มากนัก” แต่ “จำเป็น” ต่อชีวิตประจำวันของคุณผู้หญิง ดังนั้น จึงไม่ควรใส่ของมีค่ามาก ที่คุณต้องร้องไห้ด้วยความเสียดายไว้ในกระเป๋าถือเป็นอันขาด วิธีดีที่สุดที่จะทำให้คุณ
ร้องไห้น้อยที่สุดเมื่อเสียมันไป คือการทำให้มันเป็นของที่ “น่าเสียดาย” ไม่มากนัก
2.อย่าใช้กระเป๋าแบรนด์เนม เพราะกระเป๋าแบรนด์เนม จะเป็นตัวล่อโจรให้เข้ามาหาคุณผู้หญิงที่ถือกระเป๋าแบรนด์เนมมากกว่ากระเป๋าธรรมดาๆ 10เท่า และกระเป๋าแบรนด์เนมนั้น หากถูกกรีดหรือถูกกระชาก จะสร้างความเจ็บใจให้คุณผู้หญิงที่ถือมากขึ้น และ อาจยอมสู้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อมัน ก็ได้ ข้อแนะนำคือ ขอให้เลือกใช้กระเป๋าถือ ใบที่ถ้าจำเป็นจริงๆ คุณจะสามารถตัดใจทิ้งให้โจรมันได้ เพื่อรักษาชีวิตและร่างกายคุณไม่ให้บาดเจ็บ หรือ ต้องตายเพราะมัน
3. ฝึกนิสัยพกเงินสดในจำนวนที่ใกล้เคียงกับที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันเท่านั้น ไม่ควรถอนเงินสดจำนวนมากๆใส่ไว้ในกระเป๋าถือทั้งหมด เพราะหากถูกจี้ทรัพย์ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ จะได้ไม่ต้องเสียใจมากในความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเงินสดทั้งหมดในประเป๋าถือ
4. พกบัตรเงินสด หรือ บัตรเครดิตให้น้อยใบที่สุด ถ้ามีบัตรเอทีเอ็มมากกว่าหนึ่งใบ ควรพกไว้แค่ใบเดียว เป็นใบที่มีเงินในบัญชีเล็กน้อย ที่พอเพียงในการใช้จ่ายภายในวันนั้นๆ ส่วนใบอื่นๆที่มีเงินในบัญชีมากกว่า ควรเก็บไว้ที่อื่นที่คิดว่ามีความปลอดภัย มากกว่า เช่น ในบ้าน เป็นต้น การนำบัตรเงินสด หรือ บัตรเครดิตทุกใบติดตัว หากสูญหาย มันจะไม่มีเหลือสำรองไว้ให้ใช้จ่าย แต่ถ้านำติดตัวไปอย่างละใบ ในกรณีที่บัตรใบที่นำติดตัวสูญหาย หากรู้ตัวในทันที ย่อมสั่งอายัดได้ทัน แต้ถ้ารู้ตัวช้า เงินในบัญชีอาจถูกถอนไปหมดก็ได้ และ ในกรณีที่บัตรใบที่เรานำติดตัวไปสูญหาย บัตรสำรองที่เราเหลืออยู่ ยังมีพอใช้จ่าย จะลดความกังวลไปได้ค่อนข้างมาก
5. บัตรสำคัญต่างๆทุกใบ ให้นำมาถ่ายเอกสารเรียงกันบนกระดาษ A4 เมื่อกระเป๋าถือ หรือ กระเป๋าสตางค์สูญหาย คุณจะได้ทราบว่า มีเอกสารสำคัญอะไรที่หาย หรือ ที่ยังอยู่ การแจ้งอายัดบัตร และ การแจ้งความกับตำรวจ จะสามารถทำได้รวดเร็ว ป้องกันความสูญเสียให้มีจำนวนน้อยลงได้
6. จดเบอร์โทรแจ้งสำหรับอายัดบัตรสำคัญต่างๆ เบอร์ที่จดไว้นั้น ให้แยกเก็บไว้หลายๆที่ เช่น เก็บไว้ในที่ทำงาน ที่บ้าน และ ในรถ รวมทั้ง เมมโมรี่ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ เมื่อมีการสูญหายเกิดขึ้น จะได้มีความพร้อมที่จะแจ้งอายัดได้ทันที
7. อย่าใส่พวงกุญแจบ้าน หรือ พวงกุญแจรถไว้ในกระเป๋าสะพาย การกระทำเช่นนั้น ง่ายต่อการถูกฉกชิงวิ่งราว ควรคล้องกุญแจไว้ที่กระเป๋ากางเกง
หรือ ที่เข็มขัดจะมีความปลอดภัยมากกว่า
8. เทคนิคการเดินบนถนนอย่างคนฉลาดด้วยความมีสติ วันไหนที่รู้ตัวว่า ต้องสัญจรด้วยการเดินเท้า จะต้องวางแผนเส้นทางก่อนเสมอ
8.1 ควรเลือกเส้นทางที่โล่ง มีคนเดินมากๆ ไม่มีพุ่มไม้หนาทึบข้างทาง ยอมเดินไกลในถนนใหญ่ ดีกว่าเข้าซอยทางลัดที่ย่นระยะทางแต่เปลี่ยวคน หัดเปลี่ยนเส้นทางเดินบ้าง ถ้ามีทางเลือก อย่าใช้เส้นทางเดินเหมือนเดิมทุกวัน
8.2 อย่าถือสิ่งของพะรุงพะรัง ถ้าทำได้ให้รวบของถือด้วยหนึ่งมือ หรือ พร้อมในการนำสิ่งของที่ถือสองมือ มารวมไว้ในมือเดียวได้ในทันที เพื่อให้มีอีกมือว่าง
8.3 อวัยวะในตัวของคุณที่ต้องทำให้ว่างไว้รับสถานการณ์ คือ หู ตา และ มือ ถ้าอวัยวะใดไม่ว่าง ต้องพยายามทำมันให้ว่างในบัดดล เพื่อใช้ในการสังเกตเสียงที่ปรากฏรอบตัว มองคนอื่นๆรอบตัว
8.4 อย่ายืนรอรถเมล์ หรือ รถไฟฟ้าแบบตามสบาย ผู้หญิง ที่ยืนพิงเสา เม้าท์มือถือเพลินเสียงเพลง คิดถึงแฟน ท้าวแขน ล้วงกระเป๋า เอาแต่เหม่อ คนร้ายจะชอบมาก ให้ยืนตัวตรงทิ้งน้ำหนักลงทั้งสองขา สังเกตเหตุการณ์รอบตัวเป็นระยะๆ มั่นใจว่ากระเป๋าถือปิดเรียบร้อย รูดซิปปิดทุกช่อง ความหละหลวมไม่ใส่ใจของคุณผู้หญิงมักสะดุดตาโจร ฝึกนิสัยจับกระเป๋าสะพายให้กระชับตัวเสมอ หันด้านปากกระเป๋าเข้าตัว อย่าหันปากกระเป๋าออกนอกตัว อย่าเดินแกว่งกระเป๋าตามสบาย เพราะจะทำให้ถูกวิ่งราวกระเป๋าถือได้ง่าย
8.5 ถ้ามีรถยนต์แล่นปราดเข้ามาจอดตรงหน้า ถอยออกมาให้ห่างทันที ถ้าเขาจอดเพื่อถามทาง อย่าเข้าไปจนชิดประตูรถเพื่อบอกทาง เพราะเขาอาจฉุดท่านขึ้นรถไปง่ายๆ ให้ทิ้งระยะให้ห่างไกลจากตัวรถหน่อย แต่บอกทางด้วยเสียงที่ดังขึ้น จะมีความปลอดภัยมากกว่า
8.6 สอดส่ายสายตาหา “สถานที่ปลอดภัย” ระหว่างเส้นทางเดินไว้เสมอ เพื่อใช้เป็นที่ซึ่งคุณจะสามารถผลุบเข้าไปซ่อนตัวได้ ถ้าเกิดเหตุร้าย เช่น ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านปากซอย ร้านกลางซอย ร้านท้ายซอย “สถานที่ปลอดภัย”เหล่านี้ มีประโยชน์มากในหลายสถานการณ์ เช่น ถ้าคุณสงสัยว่าถูกสะกดรอย แทนที่จะเดินไปเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัว คุณสามารถเลี้ยวผลุบเข้าไป ยัง“สถานที่ปลอดภัย”เหล่านี้ แล้วแอบสังเกตการณ์ว่า คนที่เดินตามคุณผ่านหน้า“สถานที่ปลอดภัย”ของคุณไปหรือเปล่า คุณอาจรีบออกมา แล้ววิ่งสวนกลับไปยังทิศตรงกันข้าม หรือ โทรศัพท์ให้คนที่บ้าน คนข้างบ้าน ญาติคุณให้ออกมารับก็ได้
8.7 หมั่นฝึกซ้อมความคิดไว้ตลอดเวลา ให้สมมุติว่า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนี้อย่างนั้น คุณจะแก้ไขสถานการณ์ให้เกิดความปลอดภัยได้อย่างไร การฝึกซ้อมความคิดจะทำให้ คุณรู้ว่า คุณต้องทำอะไร อย่างไร และ เมื่อไรในยามคับขัน คุณย่อมสามารถตระเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างรอบคอบ โดยมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา ขออย่าให้โจรมันเลือกคุณเป็นเหยื่อ เป็นดีที่สุด
9. เทคนิคการ “ ขู่ ” คนร้ายไม่ให้เลือกคุณเป็นเหยื่อ
9.1 ถ้าคุณรู้สึกว่า มีผู้ชายคนหนึ่งจ้องมองคุณอยู่ แทนที่จะบอกมันว่า คุณเป็นเหยื่อด้วยการหลบตาเมินไปทางอื่น อย่าทำอย่างนั้น ให้มองตรงไปที่มัน ไม่ต้องถึงกับจ้องเขม็งอย่างประสงค์ร้าย แต่อย่าหลบตา อย่าทำเป็นไม่เห็น มองหน้ามันไว้ จดจำใบหน้ามันไว้ จง “ ขู่ ” มันด้วยสายตาว่า “ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไร อย่าเข้ามาเชียวนะ”
9.2 ถ้ามันเดินเข้ามาใกล้ตัวคุณ อย่ารอให้มันถึงตัว ถอยหลังทันที แล้วปรามมันด้วยคำพูดว่า “ขอโทษค่ะ คุณต้องการอะไร” ผู้ชายที่ดี จะถอยหลังจากคุณและขอโทษ แต่ผู้ชายสวะ อาจยังหน้าด้าน ถ้ามันยังล่วงล้ำเข้ามาถึงตัว เช่น ทำท่าจะฉวยมือคุณจง “ เข้ม ” ใส่มันด้วยการพูดออกมาดังๆ ว่า “ ขอโทษค่ะ คุณจะทำอะไรคะ ”
9.3 ถ้าเจ้าสวะ “ แบล็คเมล์ ” คุณกลางสาธารณชน ด้วยการโพล่งว่า “ ยายนี่ประสาทหรือเปล่า ” หรือ “ อะไรกันวะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย โวยวายไปได้ ” จงอย่าตกหลุมพรางของความอายที่มันขุดล่อ จง “ เตือน ” มันด้วยการถอยหลัง ยกมือขึ้นกั้นไว้ แล้วสั่งว่า “ หยุด! อย่ามาใกล้ฉัน ” หรือ “ ไปให้พ้น ”ประเด็นสำคัญ! อย่ากลัวที่จะดูเป็น “ ยายประสาท ” ในสายตาของคนเดินถนนที่ผ่านมา
9.4 เชื่อเถอะว่า เจ้าสวะจำนวนมาก อาจถึงครึ่งต่อครึ่ง จะเลือกที่จะเลิกล้มแผนชั่วเมื่อเจอยายประสาทที่ฉลาดกว่ามัน ร้องบอกโลกด้วยนกหวีดก็ได้ ผู้ชายที่ ประทุษร้ายผู้หญิง จนต้องรับกรรมในห้องขังคนหนึ่ง สารภาพว่า เขาจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ถือร่ม นกหวีด หรืออะไรก็ตาม ที่สามารถใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ หรือ เรียกความสนใจของคนอื่นได้ ดังนั้น ถ้าคุณต้องเดินคนเดียวในที่เปลี่ยว อย่าเดินมือเปล่า ถืออะไรบางอย่างติดมือไว้ ถ้ามีร่ม ก็จับไว้ให้มั่น มีนกหวีด ที่พร้อมจะหยิบมาเป่าได้ในทันที นกหวีดช่วยชีวิตคนมามากแล้วในหลาย สถานการณ์ เช่น เมื่อหลงทาง หรือ ติดอยู่ในสถานที่ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น เพราะนกหวีดบอกให้คนอื่นรู้ว่าเธอนั้นอยู่ที่ไหน และอาจกำลังมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นนั่นเอง ดังนั้น จะต้องมีนกหวีดที่เป่าแล้วมีเสียงดัง เอาไว้ประจำตัวตลอดเวลา จะแขวนคอไว้ หรือ ใส่ในกระเป๋าถือที่หยิบได้ง่ายในทันทีก็ได้ เมื่อคุณออกจากที่ทำงาน ลงจากรถเมล์ ไปช้อปปิ้ง เดินทาง หรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ หากเกิดเหตุไม่น่าไว้ใจ ให้เป่านกหวีดไว้ก่อนเสียงนกหวีด จะทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้ว่าคุณกำลังตกอยู่อันตราย เสียงนกหวีดจะทำให้ยามหรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ พลเมืองดีให้ความสนใจ ถ้าต้องวิ่งหนี ให้วิ่งไปพร้อมกับเป่านกหวีดไปด้วย เพื่อเรียกร้องความสนใจให้มากที่สุด ก็จะช่วยให้คุณพ้นจากภยันตรายเฉพาะหน้าได้
10. ป้องกันอันตรายในขณะรถติดไฟแดง หรือระหว่างจะเลี้ยวรถรอถนนว่าง ขอให้ท่านล๊อครถในช่วงรถจอดเสมอ เพราะ เคยมีโจรร้ายที่แต่งตัวดี ลงจากรถเก๋งคันหลัง แล้วเดินมากระชากประตูเข้าไปนั่งในรถคันหน้า หรือ คันที่จอดด้านข้าง พร้อมมีดหรือปืน ในบางครั้งก็ลงจากรถจักรยานยนต์ที่มาจอดติดกัน ลงจากการซ้อนท้าย แล้วลงไปเปิดประตูรถเก๋งจี้คนในรถ บางรายก็ยืนรอจังหวะ ณ บริเวณทางแยก เมื่อรถเก๋งจอด มันก็จะเดินมากระชากประตูรถให้เปิดออก แล้วมันก็เข้าไปนั่งด้านหลังคนขับ พร้อมมีดหรือปืน เพื่อจี้ชิงทรัพย์ท่าน แต่ ถ้าท่านเป็นผู้หญิงที่มีความสวย โจรร้ายชิงทรัพย์ก็อาจแถมด้วยการข่มขืนอีกด้วย เหตุการณ์ที่ว่านี้ ได้เกิดขึ้นแล้ว ทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืน ที่ข่าวยังไม่ออกมาฮือฮา เพราะทางการพยายามรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวมิให้เสียไป ดังนั้น ขอให้ท่านล๊อครถทุกครั้ง ที่เข้าไปนั่งในรถในทันที ระวังบางทีท่านอาจประมาท รอให้เซ็นทรัลล๊อคมันทำงาน โดยคิดว่า เมื่อใช้ความเร็วอีกนิด เซ็นทรัลล๊อคมันก็จะทำงานเอง ซึ่งในรถรุ่นใหม่ๆ มีระบบดังกล่าวจริง แต่ถ้า ท่านใช้ความเร็วไม่ได้เพราะสถานที่นั้นมีพื้นที่จำกัด เซ็นทรัลล๊อคมันยังไม่ทำงาน ก็มีโจรเดินมาเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถของท่าน พร้อมมีดหรือปืนแล้ว จึงขออย่าได้ประมาทภยันตรายบนท้องถนน ต้องล๊อครถในทันทีที่เข้าไปนั่งในรถเสมอ
11. ไม่ลงจากรถในจุดเปลี่ยวคน แม้ถูกชนท้าย หรือถูกเฉี่ยวชน โจรร้ายมีวิธีการแปลกออกมาเรื่อยๆ สำหรับท่านที่ขับรถในบริเวณที่เปลี่ยวตอนกลางคืน ท่านอาจจะตกใจที่จู่ๆ ก็มีรถวิ่งมาชนท้ายรถของท่าน หรือ วิ่งมาเฉี่ยวรถที่ท่านขับ เหตุการณ์ที่ว่า มิใช่เกิดจากการประมาทเลินเล่อของรถคู่กรณีนะครับ แต่เป็นเจตนาที่จะหลอกให้ท่านปลดล็อคประตูรถ แล้วลงมาจากรถที่ท่านขับอยู่ เมื่อท่านลงจากรถ คนร้ายก็จะกรูมาประกบท่าน อาจชิงทรัพย์ และ ชิงรถ สำหรับท่านหญิงบางรายถูกข่มขืนอีกด้วย ในกรณีมีเหตุทำนองดังกล่าวเกิดขึ้น สิ่งที่ท่านต้องทำคือ
11.1 ห้ามดับเครื่องยนต์ ห้ามลงจากรถในทันที ตั้งสติให้ได้ และ ต้องล๊อครถไว้ก่อน
11.2 รีบใช้สายตาสำรวจตรวจดูสภาพแวดล้อมโดยเร็ว ว่าเป็นสถานที่ใด มีสิ่งที่น่าสังเกตคืออะไร ท่าทีไม่ดี มีชายหลายคนเดินเข้ามา ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และ/หรือด้านหลัง เป็นไปได้ทั้งสิ้น รีบเหยียบคันเร่งออกจากที่นั้นในทันที ห้ามรอพูดคุยกับคราบโจรผู้ดี
11.3 หากดูทะเบียนรถคันที่มาชน หรือ มาเฉี่ยวได้ ให้จดหมายเลขทะเบียนรถไว้
11.4 ให้ไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด หรือ โทรแจ้ง 191 ในทันที
11.5 หากมีประกัน โทร.แจ้งประกันในภายหลังได้ ในยามวิกาล และ ในที่เปลี่ยวไม่ควรรอเรียกประกันเป็นอันขาด
11.6 ผู้ถูกรถคันอื่นชน หรือ ถูกรถคันอื่นเฉี่ยว ในที่เปลี่ยว ตอนกลางคืน ถูกจี้ชิงทรัพย์มาหลายรายแล้ว จึงขอเตือนให้มีสติให้มากเป็นพิเศษในเหตุการณ์ทำนองนี้
ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้ มีความปลอดภัยทุกคน ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมความมีสติ ในการเผชิญเหตุร้ายต่างๆ ต้องคิดไว้ล่วงหน้าว่า เราจะทำอะไร อย่างไร เมื่อประสบเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เพื่อจะได้อยู่รอดและปลอดภัยในทุกสถานการณ์
ด้วยความปรารถนาดี จาก อ.มงคล กริชติทายาวุธ
ด้วยความห่วงใย JBTจึงบอกต่อ ขอบคุณ คุณสมชาย
หลากหลายวิธีที่ผู้หญิงควรรู้จะได้ปลอดภัยจากโจร ภัยใกล้ตัวของสุภาพสตรีที่ป้องกันได้
จากสภาวะสังคมในปัจจุบันที่สาวๆทั้งหลายแข่งกันอวดทรวดทรงองค์เอว แฟชั่นกางเกงขาสั้น กระโปงสั้นโชว์ขาอ่อน บ้างก็แข่งกันอวดความรวยใช้ของแพงๆ กระเป๋าแบนด์เนม ใส่สร้อยทองวูบวาบ เซทคุยมือถือในทุกอริยาบท โดยไม่ระวังตัว นี่แหละคือสิ่งจูงใจให้กับโจรได้ก่อเหตุ ผมจึงขอนำบทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ มาเผยแพร่เพื่อให้คุณผู้หญิงที่ถูกพาดพิงเหล่านี้ได้รู้จักระวังเนื้อระวังตัว ก่อนที่จะเจอะเจอกับวายร้ายที่แฝงตัวปะปนอยู่ใกล้กับคุณในทุกหนแห่ง
สำคัญมากสำหรับท่านที่มีญาติหรือลูกหลานที่เป็นผู้หญิง
เรื่องของการฉกชิงวิ่งราวในปัจจุบัน มันแพร่ระบาดไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้จะเป็นประเทศในแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หลายพันคนโดนมาแล้ว มิใช่เกิดแต่ในเอเชีย และ แอฟริกา หรือ ในประเทศไทยเท่านั้น โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นเพศหญิงจะโดนบ่อยมากกว่าเหยื่อที่เป็นเพศชาย ดังนั้น
1. อย่าพกสิ่งที่ต้องเสียใจมากลงในกระเป๋าถือ เพราะ ถ้ามันถูกฉกไป จะได้ไม่ต้องมาเสียใจมากนั่นเอง เริ่มโดย เทสิ่งของทั้งหมดในกระเป๋าถือของคุณผู้หญิงออกมา เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรที่คุณจะต้องเสียใจไปอีกนาน ถ้ามันหายไปพร้อมกระเป๋าถือ จงรีบหยิบมันออกมา แล้วนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยมากกว่าในทันที อย่าลืมว่า กระเป๋าถือ ไม่ใช่ตู้นิรภัยเคลื่อนที่ สิ่งที่ควรมีในกระเป๋าถือ คือ “ของมีค่าไม่มากนัก” แต่ “จำเป็น” ต่อชีวิตประจำวันของคุณผู้หญิง ดังนั้น จึงไม่ควรใส่ของมีค่ามาก ที่คุณต้องร้องไห้ด้วยความเสียดายไว้ในกระเป๋าถือเป็นอันขาด วิธีดีที่สุดที่จะทำให้คุณ
ร้องไห้น้อยที่สุดเมื่อเสียมันไป คือการทำให้มันเป็นของที่ “น่าเสียดาย” ไม่มากนัก
2.อย่าใช้กระเป๋าแบรนด์เนม เพราะกระเป๋าแบรนด์เนม จะเป็นตัวล่อโจรให้เข้ามาหาคุณผู้หญิงที่ถือกระเป๋าแบรนด์เนมมากกว่ากระเป๋าธรรมดาๆ 10เท่า และกระเป๋าแบรนด์เนมนั้น หากถูกกรีดหรือถูกกระชาก จะสร้างความเจ็บใจให้คุณผู้หญิงที่ถือมากขึ้น และ อาจยอมสู้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อมัน ก็ได้ ข้อแนะนำคือ ขอให้เลือกใช้กระเป๋าถือ ใบที่ถ้าจำเป็นจริงๆ คุณจะสามารถตัดใจทิ้งให้โจรมันได้ เพื่อรักษาชีวิตและร่างกายคุณไม่ให้บาดเจ็บ หรือ ต้องตายเพราะมัน
3. ฝึกนิสัยพกเงินสดในจำนวนที่ใกล้เคียงกับที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันเท่านั้น ไม่ควรถอนเงินสดจำนวนมากๆใส่ไว้ในกระเป๋าถือทั้งหมด เพราะหากถูกจี้ทรัพย์ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ จะได้ไม่ต้องเสียใจมากในความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเงินสดทั้งหมดในประเป๋าถือ
4. พกบัตรเงินสด หรือ บัตรเครดิตให้น้อยใบที่สุด ถ้ามีบัตรเอทีเอ็มมากกว่าหนึ่งใบ ควรพกไว้แค่ใบเดียว เป็นใบที่มีเงินในบัญชีเล็กน้อย ที่พอเพียงในการใช้จ่ายภายในวันนั้นๆ ส่วนใบอื่นๆที่มีเงินในบัญชีมากกว่า ควรเก็บไว้ที่อื่นที่คิดว่ามีความปลอดภัย มากกว่า เช่น ในบ้าน เป็นต้น การนำบัตรเงินสด หรือ บัตรเครดิตทุกใบติดตัว หากสูญหาย มันจะไม่มีเหลือสำรองไว้ให้ใช้จ่าย แต่ถ้านำติดตัวไปอย่างละใบ ในกรณีที่บัตรใบที่นำติดตัวสูญหาย หากรู้ตัวในทันที ย่อมสั่งอายัดได้ทัน แต้ถ้ารู้ตัวช้า เงินในบัญชีอาจถูกถอนไปหมดก็ได้ และ ในกรณีที่บัตรใบที่เรานำติดตัวไปสูญหาย บัตรสำรองที่เราเหลืออยู่ ยังมีพอใช้จ่าย จะลดความกังวลไปได้ค่อนข้างมาก
5. บัตรสำคัญต่างๆทุกใบ ให้นำมาถ่ายเอกสารเรียงกันบนกระดาษ A4 เมื่อกระเป๋าถือ หรือ กระเป๋าสตางค์สูญหาย คุณจะได้ทราบว่า มีเอกสารสำคัญอะไรที่หาย หรือ ที่ยังอยู่ การแจ้งอายัดบัตร และ การแจ้งความกับตำรวจ จะสามารถทำได้รวดเร็ว ป้องกันความสูญเสียให้มีจำนวนน้อยลงได้
6. จดเบอร์โทรแจ้งสำหรับอายัดบัตรสำคัญต่างๆ เบอร์ที่จดไว้นั้น ให้แยกเก็บไว้หลายๆที่ เช่น เก็บไว้ในที่ทำงาน ที่บ้าน และ ในรถ รวมทั้ง เมมโมรี่ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ เมื่อมีการสูญหายเกิดขึ้น จะได้มีความพร้อมที่จะแจ้งอายัดได้ทันที
7. อย่าใส่พวงกุญแจบ้าน หรือ พวงกุญแจรถไว้ในกระเป๋าสะพาย การกระทำเช่นนั้น ง่ายต่อการถูกฉกชิงวิ่งราว ควรคล้องกุญแจไว้ที่กระเป๋ากางเกง
หรือ ที่เข็มขัดจะมีความปลอดภัยมากกว่า
8. เทคนิคการเดินบนถนนอย่างคนฉลาดด้วยความมีสติ วันไหนที่รู้ตัวว่า ต้องสัญจรด้วยการเดินเท้า จะต้องวางแผนเส้นทางก่อนเสมอ
8.1 ควรเลือกเส้นทางที่โล่ง มีคนเดินมากๆ ไม่มีพุ่มไม้หนาทึบข้างทาง ยอมเดินไกลในถนนใหญ่ ดีกว่าเข้าซอยทางลัดที่ย่นระยะทางแต่เปลี่ยวคน หัดเปลี่ยนเส้นทางเดินบ้าง ถ้ามีทางเลือก อย่าใช้เส้นทางเดินเหมือนเดิมทุกวัน
8.2 อย่าถือสิ่งของพะรุงพะรัง ถ้าทำได้ให้รวบของถือด้วยหนึ่งมือ หรือ พร้อมในการนำสิ่งของที่ถือสองมือ มารวมไว้ในมือเดียวได้ในทันที เพื่อให้มีอีกมือว่าง
8.3 อวัยวะในตัวของคุณที่ต้องทำให้ว่างไว้รับสถานการณ์ คือ หู ตา และ มือ ถ้าอวัยวะใดไม่ว่าง ต้องพยายามทำมันให้ว่างในบัดดล เพื่อใช้ในการสังเกตเสียงที่ปรากฏรอบตัว มองคนอื่นๆรอบตัว
8.4 อย่ายืนรอรถเมล์ หรือ รถไฟฟ้าแบบตามสบาย ผู้หญิง ที่ยืนพิงเสา เม้าท์มือถือเพลินเสียงเพลง คิดถึงแฟน ท้าวแขน ล้วงกระเป๋า เอาแต่เหม่อ คนร้ายจะชอบมาก ให้ยืนตัวตรงทิ้งน้ำหนักลงทั้งสองขา สังเกตเหตุการณ์รอบตัวเป็นระยะๆ มั่นใจว่ากระเป๋าถือปิดเรียบร้อย รูดซิปปิดทุกช่อง ความหละหลวมไม่ใส่ใจของคุณผู้หญิงมักสะดุดตาโจร ฝึกนิสัยจับกระเป๋าสะพายให้กระชับตัวเสมอ หันด้านปากกระเป๋าเข้าตัว อย่าหันปากกระเป๋าออกนอกตัว อย่าเดินแกว่งกระเป๋าตามสบาย เพราะจะทำให้ถูกวิ่งราวกระเป๋าถือได้ง่าย
8.5 ถ้ามีรถยนต์แล่นปราดเข้ามาจอดตรงหน้า ถอยออกมาให้ห่างทันที ถ้าเขาจอดเพื่อถามทาง อย่าเข้าไปจนชิดประตูรถเพื่อบอกทาง เพราะเขาอาจฉุดท่านขึ้นรถไปง่ายๆ ให้ทิ้งระยะให้ห่างไกลจากตัวรถหน่อย แต่บอกทางด้วยเสียงที่ดังขึ้น จะมีความปลอดภัยมากกว่า
8.6 สอดส่ายสายตาหา “สถานที่ปลอดภัย” ระหว่างเส้นทางเดินไว้เสมอ เพื่อใช้เป็นที่ซึ่งคุณจะสามารถผลุบเข้าไปซ่อนตัวได้ ถ้าเกิดเหตุร้าย เช่น ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านปากซอย ร้านกลางซอย ร้านท้ายซอย “สถานที่ปลอดภัย”เหล่านี้ มีประโยชน์มากในหลายสถานการณ์ เช่น ถ้าคุณสงสัยว่าถูกสะกดรอย แทนที่จะเดินไปเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัว คุณสามารถเลี้ยวผลุบเข้าไป ยัง“สถานที่ปลอดภัย”เหล่านี้ แล้วแอบสังเกตการณ์ว่า คนที่เดินตามคุณผ่านหน้า“สถานที่ปลอดภัย”ของคุณไปหรือเปล่า คุณอาจรีบออกมา แล้ววิ่งสวนกลับไปยังทิศตรงกันข้าม หรือ โทรศัพท์ให้คนที่บ้าน คนข้างบ้าน ญาติคุณให้ออกมารับก็ได้
8.7 หมั่นฝึกซ้อมความคิดไว้ตลอดเวลา ให้สมมุติว่า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนี้อย่างนั้น คุณจะแก้ไขสถานการณ์ให้เกิดความปลอดภัยได้อย่างไร การฝึกซ้อมความคิดจะทำให้ คุณรู้ว่า คุณต้องทำอะไร อย่างไร และ เมื่อไรในยามคับขัน คุณย่อมสามารถตระเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างรอบคอบ โดยมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา ขออย่าให้โจรมันเลือกคุณเป็นเหยื่อ เป็นดีที่สุด
9. เทคนิคการ “ ขู่ ” คนร้ายไม่ให้เลือกคุณเป็นเหยื่อ
9.1 ถ้าคุณรู้สึกว่า มีผู้ชายคนหนึ่งจ้องมองคุณอยู่ แทนที่จะบอกมันว่า คุณเป็นเหยื่อด้วยการหลบตาเมินไปทางอื่น อย่าทำอย่างนั้น ให้มองตรงไปที่มัน ไม่ต้องถึงกับจ้องเขม็งอย่างประสงค์ร้าย แต่อย่าหลบตา อย่าทำเป็นไม่เห็น มองหน้ามันไว้ จดจำใบหน้ามันไว้ จง “ ขู่ ” มันด้วยสายตาว่า “ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไร อย่าเข้ามาเชียวนะ”
9.2 ถ้ามันเดินเข้ามาใกล้ตัวคุณ อย่ารอให้มันถึงตัว ถอยหลังทันที แล้วปรามมันด้วยคำพูดว่า “ขอโทษค่ะ คุณต้องการอะไร” ผู้ชายที่ดี จะถอยหลังจากคุณและขอโทษ แต่ผู้ชายสวะ อาจยังหน้าด้าน ถ้ามันยังล่วงล้ำเข้ามาถึงตัว เช่น ทำท่าจะฉวยมือคุณจง “ เข้ม ” ใส่มันด้วยการพูดออกมาดังๆ ว่า “ ขอโทษค่ะ คุณจะทำอะไรคะ ”
9.3 ถ้าเจ้าสวะ “ แบล็คเมล์ ” คุณกลางสาธารณชน ด้วยการโพล่งว่า “ ยายนี่ประสาทหรือเปล่า ” หรือ “ อะไรกันวะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย โวยวายไปได้ ” จงอย่าตกหลุมพรางของความอายที่มันขุดล่อ จง “ เตือน ” มันด้วยการถอยหลัง ยกมือขึ้นกั้นไว้ แล้วสั่งว่า “ หยุด! อย่ามาใกล้ฉัน ” หรือ “ ไปให้พ้น ”ประเด็นสำคัญ! อย่ากลัวที่จะดูเป็น “ ยายประสาท ” ในสายตาของคนเดินถนนที่ผ่านมา
9.4 เชื่อเถอะว่า เจ้าสวะจำนวนมาก อาจถึงครึ่งต่อครึ่ง จะเลือกที่จะเลิกล้มแผนชั่วเมื่อเจอยายประสาทที่ฉลาดกว่ามัน ร้องบอกโลกด้วยนกหวีดก็ได้ ผู้ชายที่ ประทุษร้ายผู้หญิง จนต้องรับกรรมในห้องขังคนหนึ่ง สารภาพว่า เขาจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ถือร่ม นกหวีด หรืออะไรก็ตาม ที่สามารถใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ หรือ เรียกความสนใจของคนอื่นได้ ดังนั้น ถ้าคุณต้องเดินคนเดียวในที่เปลี่ยว อย่าเดินมือเปล่า ถืออะไรบางอย่างติดมือไว้ ถ้ามีร่ม ก็จับไว้ให้มั่น มีนกหวีด ที่พร้อมจะหยิบมาเป่าได้ในทันที นกหวีดช่วยชีวิตคนมามากแล้วในหลาย สถานการณ์ เช่น เมื่อหลงทาง หรือ ติดอยู่ในสถานที่ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น เพราะนกหวีดบอกให้คนอื่นรู้ว่าเธอนั้นอยู่ที่ไหน และอาจกำลังมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นนั่นเอง ดังนั้น จะต้องมีนกหวีดที่เป่าแล้วมีเสียงดัง เอาไว้ประจำตัวตลอดเวลา จะแขวนคอไว้ หรือ ใส่ในกระเป๋าถือที่หยิบได้ง่ายในทันทีก็ได้ เมื่อคุณออกจากที่ทำงาน ลงจากรถเมล์ ไปช้อปปิ้ง เดินทาง หรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ หากเกิดเหตุไม่น่าไว้ใจ ให้เป่านกหวีดไว้ก่อนเสียงนกหวีด จะทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้ว่าคุณกำลังตกอยู่อันตราย เสียงนกหวีดจะทำให้ยามหรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ พลเมืองดีให้ความสนใจ ถ้าต้องวิ่งหนี ให้วิ่งไปพร้อมกับเป่านกหวีดไปด้วย เพื่อเรียกร้องความสนใจให้มากที่สุด ก็จะช่วยให้คุณพ้นจากภยันตรายเฉพาะหน้าได้
10. ป้องกันอันตรายในขณะรถติดไฟแดง หรือระหว่างจะเลี้ยวรถรอถนนว่าง ขอให้ท่านล๊อครถในช่วงรถจอดเสมอ เพราะ เคยมีโจรร้ายที่แต่งตัวดี ลงจากรถเก๋งคันหลัง แล้วเดินมากระชากประตูเข้าไปนั่งในรถคันหน้า หรือ คันที่จอดด้านข้าง พร้อมมีดหรือปืน ในบางครั้งก็ลงจากรถจักรยานยนต์ที่มาจอดติดกัน ลงจากการซ้อนท้าย แล้วลงไปเปิดประตูรถเก๋งจี้คนในรถ บางรายก็ยืนรอจังหวะ ณ บริเวณทางแยก เมื่อรถเก๋งจอด มันก็จะเดินมากระชากประตูรถให้เปิดออก แล้วมันก็เข้าไปนั่งด้านหลังคนขับ พร้อมมีดหรือปืน เพื่อจี้ชิงทรัพย์ท่าน แต่ ถ้าท่านเป็นผู้หญิงที่มีความสวย โจรร้ายชิงทรัพย์ก็อาจแถมด้วยการข่มขืนอีกด้วย เหตุการณ์ที่ว่านี้ ได้เกิดขึ้นแล้ว ทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืน ที่ข่าวยังไม่ออกมาฮือฮา เพราะทางการพยายามรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวมิให้เสียไป ดังนั้น ขอให้ท่านล๊อครถทุกครั้ง ที่เข้าไปนั่งในรถในทันที ระวังบางทีท่านอาจประมาท รอให้เซ็นทรัลล๊อคมันทำงาน โดยคิดว่า เมื่อใช้ความเร็วอีกนิด เซ็นทรัลล๊อคมันก็จะทำงานเอง ซึ่งในรถรุ่นใหม่ๆ มีระบบดังกล่าวจริง แต่ถ้า ท่านใช้ความเร็วไม่ได้เพราะสถานที่นั้นมีพื้นที่จำกัด เซ็นทรัลล๊อคมันยังไม่ทำงาน ก็มีโจรเดินมาเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถของท่าน พร้อมมีดหรือปืนแล้ว จึงขออย่าได้ประมาทภยันตรายบนท้องถนน ต้องล๊อครถในทันทีที่เข้าไปนั่งในรถเสมอ
11. ไม่ลงจากรถในจุดเปลี่ยวคน แม้ถูกชนท้าย หรือถูกเฉี่ยวชน โจรร้ายมีวิธีการแปลกออกมาเรื่อยๆ สำหรับท่านที่ขับรถในบริเวณที่เปลี่ยวตอนกลางคืน ท่านอาจจะตกใจที่จู่ๆ ก็มีรถวิ่งมาชนท้ายรถของท่าน หรือ วิ่งมาเฉี่ยวรถที่ท่านขับ เหตุการณ์ที่ว่า มิใช่เกิดจากการประมาทเลินเล่อของรถคู่กรณีนะครับ แต่เป็นเจตนาที่จะหลอกให้ท่านปลดล็อคประตูรถ แล้วลงมาจากรถที่ท่านขับอยู่ เมื่อท่านลงจากรถ คนร้ายก็จะกรูมาประกบท่าน อาจชิงทรัพย์ และ ชิงรถ สำหรับท่านหญิงบางรายถูกข่มขืนอีกด้วย ในกรณีมีเหตุทำนองดังกล่าวเกิดขึ้น สิ่งที่ท่านต้องทำคือ
11.1 ห้ามดับเครื่องยนต์ ห้ามลงจากรถในทันที ตั้งสติให้ได้ และ ต้องล๊อครถไว้ก่อน
11.2 รีบใช้สายตาสำรวจตรวจดูสภาพแวดล้อมโดยเร็ว ว่าเป็นสถานที่ใด มีสิ่งที่น่าสังเกตคืออะไร ท่าทีไม่ดี มีชายหลายคนเดินเข้ามา ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และ/หรือด้านหลัง เป็นไปได้ทั้งสิ้น รีบเหยียบคันเร่งออกจากที่นั้นในทันที ห้ามรอพูดคุยกับคราบโจรผู้ดี
11.3 หากดูทะเบียนรถคันที่มาชน หรือ มาเฉี่ยวได้ ให้จดหมายเลขทะเบียนรถไว้
11.4 ให้ไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด หรือ โทรแจ้ง 191 ในทันที
11.5 หากมีประกัน โทร.แจ้งประกันในภายหลังได้ ในยามวิกาล และ ในที่เปลี่ยวไม่ควรรอเรียกประกันเป็นอันขาด
11.6 ผู้ถูกรถคันอื่นชน หรือ ถูกรถคันอื่นเฉี่ยว ในที่เปลี่ยว ตอนกลางคืน ถูกจี้ชิงทรัพย์มาหลายรายแล้ว จึงขอเตือนให้มีสติให้มากเป็นพิเศษในเหตุการณ์ทำนองนี้
ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้ มีความปลอดภัยทุกคน ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมความมีสติ ในการเผชิญเหตุร้ายต่างๆ ต้องคิดไว้ล่วงหน้าว่า เราจะทำอะไร อย่างไร เมื่อประสบเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เพื่อจะได้อยู่รอดและปลอดภัยในทุกสถานการณ์
ด้วยความปรารถนาดี จาก อ.มงคล กริชติทายาวุธ
ด้วยความห่วงใย JBTจึงบอกต่อ ขอบคุณ คุณสมชาย
หลากหลายวิธีที่ผู้หญิงควรรู้จะได้ปลอดภัยจากโจร ภัยใกล้ตัวของสุภาพสตรีที่ป้องกันได้
0 comments:
แสดงความคิดเห็น