ร่างกายมนุษย์สะสมไฟฟ้าสถิตเกินควร มาปล่อยไฟฟ้าสถิตจากตัวเราลงดินเถอะ เพื่อสุขภาพ
ทราบไหมว่า ยืนใต้ต้นไม้ด้วยเท้าเปล่า นำผลดีต่อสุขภาพและชะลอความแก่ได้ เหตุผลคือ พื้นดินใต้ต้นไม้มีความชื้นที่พอเหมาะเมื่อเทียบกับพื้นคอนกรีตหรือพื้นกลางแดดที่แห้งแล้ง
ความชื้นต่ำไปไม่อาจเหนี่ยวนำไฟฟ้า ประจุไฟฟ้าจึงถ่ายเทไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่สายดินล่อฟ้าต้องปักลึกเข้าไปใต้ดินไม่ต่ำกว่า 2 เมตร ซึ่งเป็นเนื้อดินที่มีความชึ้นค่อนข้างคงที่ สะดวกต่อการเหนี่ยวนำไฟฟ้าเข้าสู่โลก
หมอจีนผู้หนึ่งซึ่งอพยพไปอยู่อเมริกานานปี เล่าเรื่องตัวอย่างชีวิตจริงโดยหวังให้ช่วยเผยแพร่เป็นบุญกุศลแก่สาธารณชน เรื่องมีอยู่ว่า
ประธานบริษัทข้ามชาติผู้หนึ่ง เป็นโรคนอนไม่หลับมานานปี แต่ละปีต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางหาหมอหลายล้านเหรียญ แต่ก็ไม่หาย ต้องเดินไปมาในห้องทุกคืน
ลูกชายเขาบังเอิญได้มีโอกาสฟังการบรรยายของ Dr. Christopher ซึ่งเน้นให้คนเราต้องสัมผัสกับพื้นดิน เพื่อปล่อยประจุไฟฟ้าสถิตออกจากร่างกาย
ลูกชายจึงพาคุณพ่อเดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้าที่ชื้นนิ่มโดยใช้เวลา 10 นาที รุ่งเช้าวันต่อมา ปรากฏว่าท่านประธานนอนหลับสบายตลอดคืน ตื่นขึ้นมามีอารมณ์สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
ญึ่ปุ่นเป็นประเทศที่คนอายุยืน มีกฎหมายกำหนดให้รองเท้าเด็กไม่ใช้พื้นยาง เพราะสวมใส่รองเท้าพื้นยางพาราหรือยางเทียม เท่ากับเป็นฉนวนตัดขาดจากพื้นดิน ประจุไฟฟ้าสถิตจะสะสมในร่างกายเกินควร ทำให้แก่เกินวัย ภูมิคุ้มกันถดถอย มีอาการนอนไม่หลับ ร่างกายเสียสมดุล เป็นมะเร็งได้ง่าย (ปัจจุบันผู้ใหญ่เป็นมะเร็งโดยเฉลี่ยเกือบ 33%)
ผลิตภัณฑ์ทางเคมีปัจจุบันมีมากกว่า 10 ล้านชนิด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ในชีวิตประจำวันของคนเรา เช่น รองเท้ากว่า 90% ใช้พื้น ยางเทียมที่เป็นฉนวนไฟฟ้า ซึ่งผิดกับรองเท้าดั้งเดิมที่ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น รองเท้าฟาง รองเท้าผ้า รองเท้าหนังเป็นต้น
ร่างกายเราเปรียบเหมือน bio-electromagnetic field ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสนามแม่เหล็กโลก ตราบใดที่ความสมดุลทางธรรมชาติแปรเปลี่ยนหรือถูกกีดขวาง ก็จะทำให้ร่างกายและจิตใจไม่สบาย
เมือง “ทันสมัย” เต็มไปด้วยถนนลาดยาง ถนนคอนกรีต พื้นกระเบื้อง ซึ่งล้วนเป็นวัตถุฉนวน ประกอบกับยางล้อรถยนต์ที่เรานั่ง รองเท้ายางเทียมที่เราสวมใส่ คนสมัยใหม่ใช้ชีวิตโดยไม่สัมผัสกับพื้นดินตลอดทั้งวันก็ว่าได้ ปัญหาที่ติดตามมาจึงน่าศึกษาให้ถ่องแท้
พื้นผิวในอาคารสูง แม้จะชื้นแฉะเพียงใดก็ตาม ไม่ถือเป็นพื้นผิวโลก และไม่อาจปลดปล่อยประจุไฟฟ้าสถิต ดังนั้น แต่ละวันเดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้า พื้นดิน ผิวลูกรังหรือชายหาดสักช่วงหนึ่งเป็นดีที่สุด ผู้ป่วยยิ่งต้องสัมผัสกับธรรมชาติให้มาก อย่าลืมถอดรองเท้าพื้นยาง มิฉะนั้น จะหายใจลึกยังไงหรือเดินทอดน่องนานแค่ไหนก็ช่วยได้ไม่มาก
รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน พื้นหญ้าบ้างนะครับ
ด้วยความห่วงใย JBTจึงบอกต่อ ขอบคุณ คุณวิภา
ร่างกายมนุษย์สะสมไฟฟ้าสถิตเกินควร มาปล่อยไฟฟ้าสถิตจากตัวเราลงดินเถอะ เพื่อสุขภาพ
0 comments:
แสดงความคิดเห็น