จริงหรือน้ำมันปาล์ม Palm Oil คือต้นตอที่ทำให้สมองป่วย ภัยใกล้ตัวที่มากับอาหาร
ทุกวันนี้น้ำมันปาล์มที่วางขายตามท้องตลาด ราคาขึ้นเอาขึ้นเอา โดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆหลายประการ เป็นผลพลอยให้ราคาอาหารจะขยับขึ้นตามอีก เกิดภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพคนไทยต้องสูงขึ้นอีก
มาดูอีกด้านหนึ่งที่เกิดขึ้นจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป อาหารหลายๆอย่างปลุงด้วยน้ำมันปาล์ม น้ำมันตัวนี้แหละที่ทำให้เรามีอาการป่วยต่างๆ เรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นบาง (ข้อมูลด้านล่างนี้ผมนำมาจากประชาชาติธุรกิจ)
อาการป่วยที่พิสูจน์สาเหตุไม่ได้นั้น นับวันยิ่งสร้างความเสี่ยงกับชีวิตผู้คนในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคไต และโรคอัลไซเมอร์ที่ยังหาต้นตอของการเกิดโรคไม่ได้แน่ชัด แต่หารู้ไม่ว่า ต้นเหตุอาจมาจากอาหารการกินที่เรารับประทานเข้าไปทุกวัน ๆ
อาการป่วยที่ไม่ว่าใครก็ต้องเผชิญ ล้วนมีสาเหตุหลักมาจากการรับประทานอาหาร เพราะอาหารนั้นเสมือนเป็นเชื้อเพลิงให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่เมื่อเชื้อเพลิงไม่ดี ไม่เหมาะ ย่อมส่งผลให้ร่างกายเราตีรวนเจ็บป่วยเริ่มจากเล็ก ๆ น้อย ๆ จนอาจลุกลามถึงขั้นร้ายแรงยากเกินรักษา
น้ำมันพืชจัดเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการประกอบอาหาร แม่บ้านยุคใหม่ใช้น้ำมันพืชประกอบอาหารทั้งทอด ทั้งผัด ว่ากันว่าดีกว่าใช้ไขมันสัตว์ ประเภทน้ำมันหมู แต่น้ำมันพืชส่วนใหญ่ที่ใช้ประกอบอาหาร ยังเป็น "น้ำมันปาล์ม" ซึ่งมีงานวิจัยจากสถาบันอาหารของสหรัฐอเมริการะบุว่า เมื่อน้ำมันปาล์มมีความร้อน 37 องศาเซลเซียส ขึ้นไปจะเกาะตัวเหนียวเป็นกาว แล้วไปขวางลำไส้ ทำให้เราดื่มน้ำแล้วซึมผ่านลำไส้ไม่ได้ ดังตัวอย่างที่มีให้เห็นลองไปดูคราบน้ำมันที่ติดขอบกระทะ จะเห็นว่าเหนียวหนืดมาก
อาการที่ปรากฎชัดสังเกตได้ง่าย ๆ คือ หลังดื่มน้ำไม่เกิน 10 นาทีต้องรีบไปปัสสาวะแล้ว และอาจทำให้บางคนไม่ค่อยชอบดื่มน้ำเพราะเหตุนี้ เมื่อร่างกายขาดน้ำ จะเกิดถุงน้ำดีข้น ทำให้เกิดอาการร้อนใน เหงื่อออกมากเกินปกติ เนื่องจากร่างกายต้องการระบายความร้อนของอวัยวะภายใน นอกจากนี้ยังมีผลต่อสมองคือเกิดอาการหงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อถุงน้ำดีข้น ทำให้เลือดไม่ค่อยมาเลี้ยงสมองส่วนหน้า จะหายใจติดขัด และนอนไม่ค่อยหลับ ปวดหัวข้างเดียวบ้าง สองข้างบ้าง เป็นแบบปวดหัวไมเกรนมาจากถุงน้ำดีข้น ต้นเหตุเพราะดูดซึมน้ำเข้าร่างกายไม่ได้ เป็นประเด็นหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคร้ายตามมา
อีกทั้งเมื่อร่างกายดูดซึมน้ำได้น้อย อาจเกิดปัญหาการขาดสารอาหารที่ละลายในน้ำ เพราะต้องใช้น้ำ เป็นตัวทำละลาย ซึ่งได้แก่สารอาหารจำพวกวิตามินซี, วิตามินบี, โปรตีน, กรดอะมิโน เป็นต้น ส่วนสารอาหารที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี เค ซึ่งเมื่อร่างกายดูดซึมน้ำได้น้อย สารอาหารที่มากับน้ำก็เข้าสู่ร่างกายไม่ได้ เข้าได้แต่เฉพาะสารอาหารที่มากับไขมันอย่างเดียว เมื่อสารอาหารเข้าไปไม่ครบทั้งสารอาหารจากน้ำและไขมัน ไตจึงต้องขับสารอาหารทั้งหมดที่ไม่ครบคู่ทิ้ง ไตเลยทำงานหนักโดยไม่จำเป็น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไตได้
แนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอาการร้าย ๆ ดังกล่าวกับร่างกายก็คือ การหันมาบริโภคน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ บ้างแทนที่จะเป็นน้ำมันปาล์มเพียงอย่างเดียว ก็หันมาปรุงอาหารด้วยน้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันรำข้าวแทน
นอกจากนี้ ควรบริโภคผักและผลไม้ให้ได้ครึ่งหนึ่งของอาหารหมู่อื่น ๆ รวมกัน เพราะนอกจากเกลือแร่และวิตามินในผักที่มีอยู่มากมายมหาศาล ผักและผลไม้ยังมีกากใยช่วยล้างพิษต่าง ๆ ในร่างกายแบบธรรมชาติบำบัดด้วยอีกแรง
แม้ว่าเราหลีกเลี่ยงความเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ได้เสมอไป แต่เราสามารถเลือกสิ่งที่ดีให้ร่างกายเราเองได้ตลอดเวลา เมื่อทานในสิ่งที่ดี มีประโยชน์ อาหารก็จะเป็นพลังต้านโรคได้สารพัด ดังนั้นเลือกทานอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ อย่ารอให้โรคใด ๆ มากล้ำกราย เพราะเมื่อป่วยแล้วไม่ว่าอาหารจานเด็ดรสเลิศแค่ไหน ก็ซ่อมแซมสุขภาพของคุณให้กลับมาดีดังเดิมไม่ได้
ข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจ
ด้วยความห่วงใย JBTจึงบอกต่อ ขอบคุณ คุณต่อศักดิ์
จริงหรือน้ำมันปาล์ม Palm Oil คือต้นตอที่ทำให้สมองป่วย ภัยใกล้ตัวที่มากับอาหาร
0 comments:
แสดงความคิดเห็น